อุตฯอากาศยานขยับ ลงทุนอีอีซี ปักฐานใน 7 นิคมฯรวม 11 ราย ขณะรัฐเล็งปรับเป้าลงทุนรัฐ-เอกชนในอีอีซี ทะลุ 1.5 ล้านล้านใน 5 ปี พร้อมศึกษา ตั้งเมืองใหม่ 11 แห่ง ดัน 3 เมืองหลัก ตั้งศูนย์การศึกษา วิจัยพัฒนา ศูนย์ธุรกรรมการเงิน ที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ ด้านผังเมือง เตรียมพัฒนาพื้นที่ใหม่ 5 ล้านไร่ เร่งจัดทำ ผังเมิองอีอีซี ภายใน 6 เดือน รัฐบาลคาดหวังที่จะดึงดูดการลงทุนต่างชาติใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี นอกจากอุตสาหกรรมยานยนต์อัจฉริยะ ที่นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนแล้ว ยังมีอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้วหลายราย รายงานข่าวจากคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ที่มีผู้ประกอบการเข้ามาขอรับการส่งเสริมการลงทุนไปแล้วประมาณ 8 ราย ได้แก่ บริษัทผลิตรถยนต์ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มาสด้า ซูซูกิ บีเอ็มดับเบิลยู เบนซ์ และเอ็มจี แล้ว ในส่วนของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ที่ผ่านมายังมีนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนแล้ว 11 ราย ใน 7 นิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ นิคมฯเวลโกรว์ (ฉะเชิงเทรา) มี 1 ราย ในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อากาศยานและยานยนต์อื่นๆ นิคมฯแหลมฉบัง (ชลบุรี) มี 2 ราย ผลิตและส่งออกอุปกรณ์เครื่องใช้บนเครื่องบิน นิคมฯ ปิ่นทอง 1 (ชลบุรี) มี 4 ราย ผลิตและส่งออกอุปกรณ์และเครื่องใช้ บนเครื่องบิน ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน และยานยนต์ และผลิตและ ประกอบชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน ส่วนประกอบที่นั่งในอากาศยานและ ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน ผลิตชิ้นส่วนปีกอากาศยาน นอกจากนี้ ยังมีนิคมฯเหมราช (ชลบุรี) มี 1 ราย ผลิต จำหน่ายชิ้นส่วนโลหะสำหรับเครื่องบิน นิคมฯอมตะนคร (ชลบุรี) 1 ราย ผลิตซ่อมแซมและยกเครื่องส่วนประกอบเครื่องบิน นิคมฯอมตะซิตี้ (ระยอง) 1 ราย ผลิตและซ่อมแซมอากาศยาน รวมทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์อากาศยานเครื่องมือเครื่องใช้บนอากาศยานและอุตสาหกรรมการบิน นิคมฯอิสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) 1 ราย ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน เล็งเพิ่มเป้า5ปี1.5ล้านล้าน นางสาวพจณี อรรถโรจน์ภิญโญ รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) สายงาน วิชาการและแผน กล่าวว่า เดิมได้ประเมินงบประมาณการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ว่าจะมีเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของรัฐและเอกชน จะอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี แบ่งเป็นการลงทุนภาครัฐ 1 ล้านล้านบาท โดยสัดส่วน 70% จะเป็นการลงทุนร่วมกับภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนประมาณ 5 แสนล้านบาท แต่เมื่อพิจารณายอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (อีอีซี) ในปี 2560 ที่พบว่าเกินเป้าหมายมียอดรวมเกือบ 3 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม เข้ามาขอรับการ ส่งเสริมพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 19 แห่ง ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ต้องกลับมาประเมินตัวเลขการลงทุนภายใน 5 ปีใหม่ ให้มากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มตัวเลขการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินตัวเลขที่ชัดเจน ดันพัฒนา11เมืองใหม่”อีอีซี” นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่ อีอีซี ในการพัฒนาเมืองใหม่ ว่าควรจะมีกี่เมือง โดยเบื้องต้นจะมี 11 เมือง ซึ่งเป็นเมืองหลัก 3 เมือง ได้แก่ เมืองระยอง เมืองชลบุรี และเมืองฉะเชิงเทรา โดยเมืองระยองจะพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งการวิจัยพัฒนา และการศึกษา ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนาบุคลากรของคนในพื้นที่ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และจะมีโครงสร้างพื้นฐาน ใหม่สร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชนมากขึ้น จ.ชลบุรี จะเป็นเมืองศูนย์กลางการบริการทางการเงิน ธุรกิจการเงิน และเมืองการบิน จ.ฉะเชิงเทรา จะเป็นเมืองที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย รองรับการเติบโตของกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัด อีอีซี เป็นต้น แต่ทั้งนี้ แผนการพัฒนาจะต้องระวังความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองใหม่และเมืองเก่าด้วย นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ความคืบหน้าในการจัดทำ ผังเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตาม คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 47 มีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) ไป จัดทำแผนการพัฒนาอีอีซี ทั้งในเรื่องของแผนต่างๆ ในการใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้แล้วเสร็จ คาดผังเมืองอีอีซีเสร็จใน6เดือน จากนั้นให้สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดของแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคให้สอดคล้องกัน โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่คณะกรรมการนโยบายให้ความเห็นชอบ ก่อนให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดทำผังเมืองรวม 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จากนั้นก็แยกทำผังเมืองของแต่ละจังหวัดให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และผังย่อยเมืองหลัก เช่น เมืองชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ตามกระบวนการขั้นตอน ตามปกติต่อไป “อีอีซี”พื้นที่รวม 8 ล้านไร่ โดยในพื้นที่อีอีซี มีเนื้อที่ประมาณ 8 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ป่า ประมาณ 1 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ที่ได้พัฒนาไปแล้วประมาณเกือบ 2 ล้านไร่ เหลือที่ดินที่จะพัฒนาเพิ่มได้อีกประมาณ 5 ล้านไร่ ซึ่งพื้นที่ที่จะพัฒนาใหม่ส่วนใหญ่จะอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยจ.ฉะเชิงเทรา จะพัฒนาไปเป็นเมืองพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมแห่งใหม่ รองรับพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ.ชลบุรี และระยอง ซึ่งจะต้องลงไปศึกษาใน รายละเอียดถึงความเหมาะสมของพื้นที่ เพื่อวางแผนว่าในพื้นที่ใดเหมาะกับการสร้างเมืองใหม่ ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา: http://www.thaiauto.or.th/2012/th/news/news-detail.asp?news_id=4062